กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ โครงการความร่วมมือระหว่างเยอรมัน – ไทยฯ พร้อมผลักดันให้จังหวัดสตูลเป็นเมืองสมุนไพรยกระดับการปลูกสมุนไพรคุณภาพเพื่อการเภสัชกรรม ด้วยนวัตกรรมการปลูกขมิ้นชันในกระสอบ

กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ดำเนินงานโครงการความร่วมมือระหว่างเยอรมัน – ไทย เพื่อส่งเสริมระบบและการบริหารจัดการด้านการเกษตรอย่างยั่งยืนผ่านเครือข่ายนวัตกรรม ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงอาหารและเกษตรแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

โดยในปีงบประมาณ 2568 ได้คัดเลือกกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตสมุนไพร ในพื้นที่อำเภอควนโดนจังหวัดสตูลเข้าร่วมโครงการ เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ซึ่งเดิมเป็นกลุ่มผู้สูงอายุในอำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ได้ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมการปลูกขมิ้นชันในกระสอบพลาสติกเพื่อช่วยในเรื่องของการจัดการที่ง่ายขึ้น การเก็บเกี่ยวที่สะดวก และเหมาะสมกับพื้นที่จำกัด ตั้งแต่ปี 2561 โดยเริ่มจาก 13 ครัวเรือน รวมจำนวน 1,560 กระสอบ ได้ผลผลิตขมิ้นชันสดทั้งหมด 536 กิโลกรัม จำหน่ายให้แก่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำนวน 523 กิโลกรัม เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตยาแผนไทย ซึ่งมีสาระสำคัญทางยา (เคอร์คูมีน) สูงถึง ร้อยละ 11 ส่วนผลผลิตที่เหลือเก็บไว้ทำพันธุ์ในรอบผลิตปีถัดไป

ปัจจุบัน ปี 2568 เกษตรกรสนใจปลูกขมิ้นชันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถขยายเครือข่ายผู้ปลูกขมิ้นชันมากกว่ากว่า 160 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอในจังหวัดสตูล ได้แก่ เมืองสตูล, ควนกาหลง, ควนโดน, ละงู และทุ่งหว้า รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดสงขลาและตรัง โดยมีการปลูกในกระสอบ จำนวน 13,509 กระสอบ และปลูกลงแปลงรวม 7 ไร่ ในขณะเดียวกันได้มีการจัดตั้ง “วิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรบ้านเขาน้อย” ณ หมู่ 3 ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน เพื่อรวบรวมผลผลิต แปรรูป และจำหน่ายสมุนไพร ได้แก่ ขมิ้นชัน ไพล ตะไคร้ ใบมะขาม ใบและผิวมะกรูด และเพชรสังฆาต อีกด้วย

กรมส่งเสริมการเกษตรได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่  พร้อมผลักดันให้จังหวัดสตูลเป็นเมืองสมุนไพร ในปีงบประมาณ 2568 จึงได้เริ่มดำเนินงานผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างไทย–เยอรมัน โดยเน้น 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่

1. ส่งเสริมการผลิตสมุนไพรคุณภาพด้วยนวัตกรรมการผลิตในกระสอบ ให้กับกลุ่มผู้ผลิตขมิ้นชัน หมู่ที่ 1 ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล จำนวน 31 ราย ปลูกขมิ้นชันในกระสอบรวม 6,705 กระสอบ โดยให้ความรู้เทคโนโลยีการผลิตขมิ้นชันคุณภาพสูงเพื่อการเภสัชกรรม พร้อมจัดทำแปลงทดสอบการปลูกขมิ้นชันในกระสอบพลาสติกสำหรับปลูกพืช จำนวน 5 แปลง เพื่อศึกษาภาชนะพลาสติกสำหรับปลูกและวัสดุปลูกที่เหมาะสมกับการปลูกขมิ้นชันในกระสอบพลาสติก

2. ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปสมุนไพร โดยสนับสนุนเครื่องสไลด์ขมิ้นชันให้กับวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพรบ้านเขาน้อย หมู่ที่ 3 ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เพื่อให้เกษตรกรแปรรูปสมุนไพรแห้งจำหน่าย เพื่อเพิ่มมูลค่าจำหน่ายหัวขมิ้นสดจากกิโลกรัมละ 25 บาท เป็นการจำหน่ายแบบแปรรูปทำแห้ง ขมิ้นชันแห้ง 1 กิโลกรัม จำหน่ายได้ในราคา 230-250 บาท (อัตราขมิ้นแห้ง 1 กิโลกรัม มาจากผลผลิตสด 6 กิโลกรัม) ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถเก็บรักษาขมิ้นชันแห้งไว้รอจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี

3. ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยหมักกับพืชสมุนไพรขมิ้นชัน โดยได้นำเครื่องสับย่อยทางปาล์มน้ำมันมาให้กลุ่มเกษตรกรจังหวัดสตูลทดลองดำเนินการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาบดย่อยเป็นปุ๋ยหมักใช้กับพืชสมุนไพรขมิ้นชัน เป็นการลดต้นทุนการผลิต และได้ใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้เกิดประโยชน์  โดยจังหวัดสตูลได้คัดเลือกให้กลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านปากบาง หมู่ที่ 7 ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ดำเนินการ ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ปลูกขมิ้นชัน มีสมาชิก 10 ราย มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน 16.5 ไร่ สามารถผลิตปุ๋ยหมักจากปาล์มน้ำมันได้ประมาณ  1 ตันต่อเดือน โดยนำปุ๋ยหมักที่ผลิตได้ไปใช้กับการปลูกขมิ้นชันเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและมีแผนการพัฒนาเพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน โดยใช้ถ่านไบโอชาในการปรับปรุงดิน ให้ร่วนซุยและเป็นแหล่งธาตุอาหารสำคัญของพืชสร้างความยั่งยืนในระบบนิเวศ อีกทั้ง ยังมีทำแผนที่จะมีการขยายผลไปยังเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นชัน ในพื้นที่อื่นๆ อีกด้วย

SOCIALICON
Facebook
Twitter
Instagram
ติดต่อเรา
ปิดโหมดสีเทา