กรมส่งเสริมการเกษตร เผยคืบหน้า 15 กันยายน 2568 นี้ ส่งข้อมูลเกษตรกร โครงการไร่ละ 1,000 บาท ให้ ธ.ก.ส. เพิ่ม

ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 เห็นชอบโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 เกษตรกรเป้าหมาย 0.861 ล้านครัวเรือน งบประมาณ 7,286.77 ล้านบาท และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 เกษตรกรเป้าหมาย 4.63 ล้านครัวเรือน งบประมาณ 37,917.23 ล้านบาท ซึ่งจะมีการจ่ายเงินไร่ละ 1,000 บาท กำหนดไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท ดังนั้น เกษตรกรที่ทำการเพาะปลูกมากกว่า 10 ไร่ จะได้สิทธิสูงสุด 10 ไร่

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ขอแจ้งความคืบหน้าการส่งข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ให้ ธ.ก.ส. ตามข้อมูล ณ 12 กันยายน 2568 ดังนี้

  1. การส่งข้อมูลตามโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังฯ ได้จัดส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. แล้วจำนวน 845,122 ครัวเรือน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 โดย ธ.ก.ส. ได้เริ่มทยอยจ่ายเงินตามรอบการโอนเงินแล้ว และในวันที่ 15 กันยายน 2568 จะส่งเพิ่มเติมอีก จำนวน 4,779 ครัวเรือน สำหรับข้อมูลคงเหลือเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง และดำเนินการอย่างรัดกุม ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปรังและตรวจเช็คสถานะแล้ว พบว่าไม่ได้รับเงินขอให้ตรวจสอบและติดตามแก้ไขก่อนสิ้นสุดโครงการ 30 กันยายน นี้
  2. การส่งข้อมูลตามโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีฯ 2568/69 ได้จัดส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. แล้ว จำนวน 1,820,015 ครัวเรือน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 โดย ธ.ก.ส. ได้เริ่มทยอยจ่ายเงินตามรอบการโอนเงินแล้ว และในวันที่ 15 กันยายน 2568 จะส่งเพิ่มเติมอีกประมาณ 1.57 ล้านครัวเรือน รวมแล้วกว่า 3.39 ล้านครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 73.20 ของโครงการ และร้อยละ 76.43 ของจำนวนเกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร
  3. เกษตรกรที่ยังคงเหลือตามเป้าหมายโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีฯ 2568/69 ประมาณ 1.7 ล้านครัวเรือน อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบตามคู่มือการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2568/2569 เช่น การปิดประกาศ การประชาคม โดยเกษตรกรจะต้องลงลายมือชื่อรับรองการประชาคมทุกครั้ง เพื่อรับรองข้อมูลของตนเอง ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ กรมฯ จะตรวจสอบความถูกต้อง และตัดยอดตามรอบการรวบรวมข้อมูล (เดือนละ 2 ครั้ง) จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ ทั้งนี้ ช่วงการเพาะปลูกข้าวนาปี 2568/69 ของไทย จะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม 2568 ที่ซึ่งแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศ และสำหรับภาคใต้ 9 จังหวัด ช่วงการเพาะปลูกข้าวนาปี 2568/69 ของไทย จะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน 2568 – กุมภาพันธ์ 2569 ดังนั้น ข้อมูลเกษตรกรจะทยอยส่งให้ ธ.ก.ส. จนถึงเดือนสิงหาคม 2569 ตามรอบการเพาะปลูกของเกษตรกร ด้วยเหตุผลข้างต้น จากนั้น ธ.ก.ส. จะดำเนินการตรวจสอบและโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกร จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการ ในเดือนกันยายน 2569

สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ช่วงการเพาะปลูกข้าวนาปี 2568/69 จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน 2568 – กุมภาพันธ์ 2569 เกษตรกรหลังจากการเพาะปลูก 15 – 60 วัน ให้สามารถดำเนินการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเน้นย้ำเกษตรกรที่แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว ให้ตรวจสอบและลงชื่อในแบบติดประกาศ และ/หรือเข้าร่วมและลงชื่อในการประชาคม เนื่องจากเกษตรกรต้องรับรองข้อมูลของตนเอง หากไม่ลงลายมือชื่อ จะถือว่าไม่ผ่านการตรวจสอบและข้อมูลจะไม่ถูกส่งเข้าร่วมโครงการ

เกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและสถานะการเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่

  • สำนักงานเกษตรอำเภอที่แจ้งขึ้นทะเบียน
  • แอปพลิเคชัน FARMBOOK
  • เว็บไซต์ efarmer.doae.go.th
    สำหรับตรวจสอบการโอนเงิน ของ ธ.ก.ส. เช็คได้ที่
  • เว็บไซต์ https://govtransfer.baac.or.th
  • แอปพลิเคชัน BAAC Mobile
  • บริการ LINE Official BAAC Family

ทั้งนี้ ขอให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง และโปรดมั่นใจว่า ไม่มีการตัดสิทธิ์โดยไม่เป็นธรรม กรมส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบราชการ ทุกประการ เพื่อรักษาความเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้.-

SOCIALICON
Facebook
Twitter
Instagram
ติดต่อเรา